คิมซอนโฮที่ชีวิตประจำวันธรรมดาแต่ก็สวยงาม Elle Febuary 2021

 

ซอนโฮฮาดา (ชื่นชอบ) ซอนโฮ

คิมซอนโฮที่ชีวิตประจำวันธรรมดาแต่ก็สวยงามกับช่วงเวลาที่หอมหวานของน้ำหอมเคนโซ่

รอยยิ้มของคิมซอนโฮที่สดชื่นราวกับการเริ่มต้นวันด้วยการดื่มน้ำหนึ่งแก้ว กับน้ำหอม Kenzo pour Homme กลิ่น Aquatic Citrus ความสดชื่นถูกเติมลงในขวดที่ดีไซน์โค้งนุ่มนวลราวกับเต็มไปด้วยน้ำ L’eau Kenzo pour Homme เป็นกลิ่นที่ผสมระหว่างมิ้นต์และซีดาร์วูด, 50ml 80,000 วอน Kenzo Parfums. เสื้อผ้าฝ้ายสีขาว แบรนด์ Lemaire. กางเกงขายาวสีเทา
แบรนด์ B_ by Beaker.

L’eau Kenzo pour Homme, 50ml 80,000 วอน Kenzo Parfums.

ช่วงบ่ายวันหยุดแสนผ่อนคลาย ท่าทางที่อ่อนโยนและดูขี้เล่นของคิมซอนโฮที่กำลังใช้ช่วงเวลาว่างอย่างสมบูรณ์แบบนั้น เหมือนกับ L’eau Kenzo ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวอย่างอิสระของน้ำ

เสื้อไหมพรมถักคอเต่า แบรนด์ System Homme. กางเกงขรายาวผ้าวูลสีกรมท่า แบรนด์ Solid Homme.

เสื้อคอเต่าสีงาช้าง แบรนด์ Tod’s. เสื้อโค้ทตัวยาวสีเบจ แบรนด์ T.I For Men.

 

ความสุขเล็กๆน้อยๆที่สัมผัสได้ผ่านดอกไม้ที่ผลิบานและกำลังเอาชนะกับฤดูหนาวที่แสนยาวนาน ความสุขแบบนั้นมักจะอยู่ใกล้ๆเสมอ Flower by Kenzo Eau De Perfume ที่บรรจุอยู่ในขวดโปร่งใสและมีดอกป๊อปปี้สีแดงหนึ่งดอกบานอยู่ ก็มอบพลังงานที่สดใสด้วยกลิ่นดอกไม้แบบ powdery เช่นกัน น้ำหอม Flower by Kenzo Eau De Perfume อบอวลด้วยกลิ่นไวท์มัสก์ที่หอมหวาน, กลิ่นกุหลาบบัลแกเรียที่ยั่วยวน และกลิ่นพริกไทยชมพูที่ใช้แทนกลิ่นดอกป๊อปปี้. 50ml 103,000 วอน Kenzo Parfums.

Flower by Kenzo Eau De Perfume, 50ml 103,000 วอน Kenzo Parfums.

สัมผัสได้ถึงกลิ่นของน้ำหอม Flower by Kenzo Eau De Perfume ที่โรแมนติกและนุ่มนวล จากคิมซอนโฮที่กำลังใช้ความคิดอย่างสุขุมภายใต้แสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาผ่านทางหน้าต่าง ราวกับกลายเป็นคุณพ่อขายาว (Daddy-Long-Legs) และช่วยโอบกอดอย่างอบอุ่น. เสื้อเชิ้ตสีขาว แบรนด์ Solid Homme. เนคไทไหมพรมสีเบอร์กันดีของสไตลิสต์

 

ฮัมเพลงนี่คะ เพราะว่าถ่ายทำเสร็จด้วยดีน่ะครับ แถวนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆด้วย เพราะเรื่องนี้ก็เลยอยู่ไม่สุขนิดหน่อย (หัวเราะ) ผมไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อคืน เพราะอยากจะถ่ายนิตยสารออกมาดูดี และวันนี้อากาศก็ดีด้วยครับ

ถึงจะหนาวแต่อากาศก็แจ่มใส ถ้าเกิดว่าได้เดตในวันแบบนี้ล่ะคะ ก็คงคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ และก็ฉีดน้ำหอมก่อนที่จะแต่งตัวครับ ถ้าจะไปเดต ก็คงจะต้องเตรียมเรื่องเล่าสนุกๆสัก 1-2 เรื่อง

ชอบกลิ่นน้ำหอมแบบไหนคะ ใช้แตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาลครับ ผมมีน้ำหอมรวมกับที่ได้รับของขวัญมา ประมาณ 20 ขวด ผมเอาออกมาตั้งวางที่ชั้นหมด ช่วงหน้าหนาวจะชอบกลิ่นแบบ woody เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาก็ใช้ L’eau Kenzo pour Homme ครับ กลิ่นมันสดชื่นและไม่ฉุน ผมมักจะใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนด้วย แล้วฉีดอยู่บ่อยๆ คนชมว่าหอมตลอดเวลาที่ได้กลิ่น ผมชอบมากครับ ตั้งแต่ตอนนั้นก็เอ็นจอยกับการใช้น้ำหอม

ในทางตรงกันข้าม กลิ่นน้ำหอมจากผู้หญิงแบบไหนที่ชอบคะ กลิ่นดอกไม้ที่ดูอบอุ่นครับ เหมือน Flower by Kenzo น้ำหอมของ Kenzo จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาก ถ้าได้กลิ่นก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่าเป็นของ Kenzo

ช่วงนี้กำลังยุ่งมากใช่ไหมคะ หลังจากละคร <Start-Up> ก็มีแฟนคลับหลายคนที่เลือกคุณเป็นผู้ชายในอุดมคติ ได้คาดหวังว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ร้อนแรงเช่นนี้ไหมคะ เหมือนเรื่องโกหกเลยครับ แต่ก็รู้สึกดีนะ อ่า ถ้าแบบนี้ก็น่าจะเรียกว่าชีวิตประสบความสำเร็จแล้วไหมนะ ผมเห็นบางคนอัพโหลดรูปที่เรียกว่า ‘มีมแฟนหนุ่ม’ สมัยที่แสดงละครเวทีย่านมหาวิทยาลัยด้วย เขาไปหารูปแบบนั้นมาจากที่ไหนนะ? ช่วงนี้มีของขวัญส่งมาที่บริษัทบ่อยด้วย ยังคิดว่านี่ฝันหรือเรื่องจริง ต่อไปผมจะต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมครับ

คิดว่ามุมไหนของฮันจีพยองที่ขโมยหัวใจของคนดูคะ เขาไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ และก็มีเรื่องราวกับคุณย่าวอนด็อกด้วย ช่วงแรกน่าจะไม่มีความรู้สึกน่าสงสาร แม้จะเหมือนคนแข็งกระด้าง แต่อีกด้านก็มีมุมที่อ่อนโยนเช่นกัน การที่ได้เห็นคนให้ความรัก ให้กำลังใจจีพยอง และการที่ผมสามารถถ่ายทอดตัวละครด้วยความรู้สึกเดียวกันได้ ทำให้ผมรู้สึกได้อีกครั้งว่าเป็นเรื่องที่ดีและมีความสุขมากจริงๆ

แม้แต่คิมซอนโฮ ก็มีช่วงที่ตกหลุมรักจีพยองไหมคะ ถ้าเป็นผม คงไม่สามารถตัดสินใจที่จะช่วยเหลือนัมโดซานได้อย่างง่ายๆหรอกครับ แต่ว่าจีพยองกลับช่วยเหลือเขาอย่างดีไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ‘ว้าว ความสุภาพของฮันจีพยองจะไปจบที่ตรงไหนเนี่ย? แบบนี้มันเท่ใช่ไหม?’ ผมคิดแบบนี้ครับ แต่ว่าผมไม่ได้คิดว่าความสุภาพนั้นเท่ หรือจีพยองดูเท่ เพราะอยากแสดงออกมาให้พอดีๆครับ

มีท่าทางของตัวเองที่ถ่ายทอดไปในตัวละครไหมคะ ด้านมนุษยธรรมของจีพยองกับผมค่อนข้างเหมือนกันมากครับ และก็ทุกครั้งที่เจอกับคุณย่าวอนด็อก ผมก็จะแสดงโดยคิดถึงคุณย่าของผมครับ คุณย่าดูแลผมอย่างดีมากจริงๆ แต่ผมก็ยังเอ๋อๆ ทำอะไรไม่เก่งและก็เงอะงะ ผมชอบคุณย่ามาก เลยอยากดูแลเอาใจใส่ แต่ก็ทำได้ไม่ง่ายอย่างที่ใจต้องการครับ 

คุณคิดว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเมื่อไหร่คะ ตอนที่อายุมากขึ้นและกลับมาจากเกณฑ์ทหารครับ ผมได้เจอคนหลายแบบในฐานะผู้ช่วยฝึก และต้องให้คำปรึกษาด้วย ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นกับทหารเกณฑ์ใหม่ วันหยุดของเขาก็จะโดนตัด ผู้ช่วยนั้น จะต้องให้คำปรึกษาอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้มีปัญหาใดๆ แต่ว่าคนที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากก็มีเยอะมาก พอได้ฟังแล้ว ความกังวลของผมก็เป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย เวลาที่ให้คำปรึกษาใครสักคน วิธีที่ดีที่สุดคืออะไรรู้ไหมครับ? ต้องเล่าเรื่องของตัวเองก่อนครับ

ตอนที่ให้สัมภาษณ์กับ <ELLE> เมื่อ 1 ปีก่อน ดูไม่ใช่คนที่จะเล่าเรื่องตัวเองนะคะ ช่วงแรกน่าจะลำบากน่าดู ใช่ครับ ถ้าไม่สนุกกับมัน ก็คงจะทำไม่ได้

ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง หรือยังคงเหมือนเดิม เวลาที่ดูการแสดงของตัวเอง ยังคงมีความรู้สึกวิตกอยู่ภายในครับ เพราะว่าเห็นจุดที่พลาด จุดที่บกพร่อง ควรจะทำให้ดีสิ ยังคงมีความรู้สึกแบบนี้อยู่ครับ ในทางตรงข้าม ก็ได้เผชิญกับงานใหม่ๆหลายอย่าง อย่างแรก จากเดิมที่ผมไม่ค่อยมีเพื่อน ก็มีเพื่อนมากขึ้นครับ

พอมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ไม่มีความคิดที่กังวลหรือรู้สึกไม่สบายใจบ้างเหรอคะ ถ้าพูดตามตรง…ผมตื่นเต้นและก็ดีใจ เลยกังวลว่าจะได้เจออะไรอย่างอื่นอีกนะ ต่อไปเวลาที่จะเลือกผลงาน ก็คงต้องคิดก่อนเป็นอันดับแรกเลยว่า ‘จะทำได้ดีไหมนะ?’ ‘เรทติ้งจะดีไหมนะ?’ ‘งานนี้จะช่วยเราได้ไหมนะ?’ ผมกลัวว่าจะคิดอะไรแบบนั้นครับ

คงต้องหาวิธีแก้ ก็คงต้องให้คำมั่นอีกครั้งครับ ว่าจะแสดงผลงานที่มีฉากที่อยากเล่น ถ้ามีคนเรียกตัวผมก่อน ก็จะเล่นผลงานนั้น

ก่อนที่ละครจะออนแอร์ ไม่เคยเดาเรทติ้งไว้ก่อนจริงๆเหรอคะ ลูกเจี๊ยบแรกเกิดแบบผมไม่สามารถเดาได้ทะลุปรุโปร่งหรอกครับ เวลากับประสบการณ์ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น เลยพยายามไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ครับ จริงๆแล้วช่วงแรกที่ถ่ายละคร <Start-Up> มีเรื่องที่ลำบากเยอะมาก ผมไม่สามารถวาดภาพจีพยองในหัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เคยมีผลงานที่มาตั้งใจดูในจอมากขนาดนี้ ‘จะโดนด่าหรือไม่โดน ก็แสดงออกไปก่อน’ ผมคิดแบบนั้นพร้อมกับแสดงอย่างเต็มที่ พอมาเห็นการแสดงของจูฮยอกกับเพื่อนๆซัมซานเทค ก็วาดภาพในหัวออกมาได้และเอ็นจอยกับเรื่องราวครับ จีพยองมีฉากที่อยู่คนเดียวเยอะ ช่วงแรกที่ถ่ายทำ ถ้ามีฉากที่ต้องแสดงร่วมกับใครก็จะดีขึ้นมาหน่อย พอละครออนแอร์และได้ฟีดแบคมาว่าแสดงได้ดี ก็ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นครับ

ไม่ค่อยเชื่อมั่นการแสดงของตัวเองอยู่บ่อยๆเหรอคะ การแสดงของผมไม่เคยถูกใจ 100% เลยครับ เมื่อก่อนผมค่อนข้างเขินอายเวลาออก TV พอมาครั้งนี้ก็ยังคงกังวลมากกว่าเดิมว่า ‘เรากำลังทำได้ดีอยู่ไหมนะ?’ ตอนนี้ผมกำลังคิดให้มันถูกต้องเพื่อที่จะปรับตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบครับ

ช่วงนี้ เสน่ห์แบบไหนของตัวเองที่ยินดีจะแสดงออกมา ภาพลักษณ์ที่ดูชิลๆสบายๆครับ เหมือนกับตอนถ่ายนิตยสาร <ELLE> เมื่อ 1 ปีก่อน ที่ทำลุคผมยุ่งๆ ดูเป็นธรรมชาติ ผมชอบฟีลแบบนั้น ดูมีไหวพริบ นุ่มนวล และอบอุ่น

ในละคร ถ้าจะให้ความรักประสบความสำเร็จ ควรจะรอจังหวะเวลาดีๆใช่ไหมคะ ถ้าจีพยองสารภาพกับดัลมีเร็วกว่านี้ คิดว่าเลิฟไลน์จะเปลี่ยนไหมคะ ผมคิดว่าถ้าทั้งคู่จะลงเอยกัน ต่อให้ไม่สารภาพก็ลงเอยกันอยู่ดีครับ จีพยองกับดัลมีไม่ใช่เนื้อคู่กัน โดซานกับดัลมีคือคู่ที่เหมาะสมแล้วครับ

เชื่อในเรื่องเนื้อคู่ใช่ไหมคะ ผมเชื่อว่าถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วคลาดกันหรอกครับ

ดูไม่เหมือนคนที่มองหาเนื้อคู่หรือพรหมลิขิต เป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘หวาดกลัว’ ในความรักครับ รอด้วยความรู้สึก ‘สักวันหนึ่งก็เจอเองแหล่ะ?’ แบบนั้น แม้ว่าจะชอบใครสักคน ก็ไม่เคยบอกชอบก่อน แต่ถ้ามีความรู้สึกว่า ‘สารภาพ! ต้องสารภาพออกไป!’ เมื่ออยู่ต่อหน้าฝ่ายตรงข้าม ถ้าเป็นแบบนั้น ในที่สุดก็จะบอกว่าชอบออกไปครับ ถ้าไม่มีช่วงเวลาที่เป็นธรรมชาติแบบนั้น ก็คงไม่สามารถสารภาพรักได้ ผมไม่ใช่คนที่จะ ‘พรุ่งนี้เธอมาเจอกันที่นี่ ตอนนี้นะ ฉันมีเรื่องจะสารภาพ!’ แบบนั้นครับ

‘ปล่อยไปตามธรรมชาติ!’ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติสุดๆครับ ผมเชื่อว่าเนื้อคู่ของผมคงอยู่ที่ไหนสักแห่ง

แสดงเป็นนักลงทุนอยู่นาน รายได้ในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้างคะ ค่าตัวครั้งแรกที่ได้จริงๆตอนแสดงละครเวทีคือ 18,000 วอนต่อรอบครับ ต่อให้แสดงละครหลายรอบ ก็น่าจะได้เดือนหนึ่งไม่เกิน 800,000 วอน ถ้าตัดค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ก็ไม่มีค่ากินแล้วครับ แต่ผมก็ยังชอบเพราะแยกแยะไม่ได้ ผมไม่ได้คิดเรื่องเงินและไม่เคยทำงานครับ ตอนนั้นผมอายุ 28 ก็คิดว่าแม่น่าจะเศร้าใจมากแค่ไหน ความกังวลของคนที่แสดงมักจะเป็นแบบนี้ครับ ‘การแสดงทำให้มีความสุข แต่ว่าก็ทำให้คนรอบตัวลำบาก’ คนรู้จักผมมากขึ้นในฐานะฮันจีพยอง จากละคร <Start-Up> พอเป็นคิมซอนโฮ สิ่งที่นึกถึงทันที คือมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้รับบทนี้ รายได้ตอนนี้สูงที่สุดที่เคยมีมาครับ

ในโลกของละครเวทีก็กลายเป็น ‘คนดังระดับจักรวาล’ แล้ว สงครามกดบัตรละครเวที <ICE> เมื่อไม่นานมานี้สุดยอดมากๆ ยังคงเล่นละครเวทีไปเรื่อยๆใช่ไหมคะ ผมรับงานละครเวที <ICE> ตอนประมาณช่วงที่เริ่มถ่ายทำ <Start-Up> แม้ว่าตอนนี้น่าจะเล่นละครเวทีได้แค่ปีละหนึ่งเรื่อง แต่ถ้าสภาพร่างกายไหว ก็อยากจะเล่นอีกเรื่องครับ เวลาที่แสดงละครเวที ผมรู้สึกว่าความสามารถเพิ่มขึ้นนิดหน่อย ได้เปิดรับความคิดมากมายด้วย เพราะมีความปรารถนาแบบนั้น เลยอยากแสดงต่อไปเรื่อยๆครับ

ที่มา https://www.elle.co.kr/article/51405

Share this:

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *