ช่วงนี้เหล่าสปอนเซอร์อยากได้ตัวคิมซอนโฮเยอะมาก รับรู้ได้ถึงชื่อเสียงของตัวเองหรือยังคะ?
พอเริ่มมีโฆษณาเข้ามาในชีวิตของผม ก็เริ่มจะรู้สึกได้ทีละนิดครับ ที่ไม่ค่อยรู้ เพราะว่าผมไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากตารางงาน เลยไม่รู้ว่าทุกคนจะมอบความรักให้กับตัวละครจีพยองมากมายขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆครับ
ในละคร มีบทที่คิมแฮซุกพูดกับซูจีว่า “เธอคือดอกคอสมอส รอคอยอย่างช้าๆ ก็จะได้บานสะพรั่งสวยที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง” มีหลายคนที่เห็นด้วยว่า บทพูดนี้เหมาะกับคิมซอนโฮตอนนี้เลยค่ะ
ผมคิดว่าคุณนักเขียนบทสุดยอดมากจริงๆ เป็นบทพูดที่ผมชอบมากที่สุดในละคร ‘Start-Up’ เลยครับ ผมคิดว่าไม่ใช่แค่เฉพาะในสถานการณ์ของผมเท่านั้น แต่เป็นบทพูดที่กินใจและเหมาะกับทุกคน ไม่ว่าใครก็จะมีช่วงเวลาที่ได้เบ่งบานอย่างเต็มที่ ฤดูกาลของผมในแต่ละครั้งมันก็แตกต่างกันใช่ไหมล่ะครับ ตอนนี้ขอบคุณสำหรับการเปรียบเทียบว่าผมเหมือนดอกคอสมอสที่บานสะพรั่ง แต่ผมก็ไม่อยากบานแค่ครั้งเดียวครับ ผมอยากโชว์ให้เห็นภาพลักษณ์ที่ดี หลากหลาย เหมือนกับดอกคอสมอสที่บานและร่วงโรยวนเวียนซ้ำๆในแต่ละฤดู
ตอนที่ได้รับรางวัลรุกกี้ เคยเล่าว่า เห็นคุณแม่ร้องไห้ สถานการณ์ตอนนี้ ท่านน่าจะรู้สึกยินดีมากกว่าใคร
ตอนนี้ผมอาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ พอหลังจากละครจบ ก็ยังได้เห็นผมออกไปทำงานข้างนอกเป็นระยะๆ พวกท่านก็เลยรู้สึกยินดีมากครับ ท่านรู้สึกขอบคุณมากกว่าใครๆ ที่ลูกชายได้แสดงบทและละครดีๆครับ
ตอนที่ละคร ‘Start-Up’ ออนแอร์ มีกระแสตอบรับจากผู้ชมมากมายที่เสียดายเพราะ ‘มีแค่ดัลมีที่ไม่รู้ถึงหัวใจของฮันจีพยอง’ ในฐานะคิมซอนโฮที่แสดงเป็นฮันจีพยอง ไม่มีเรื่องที่รู้สึกเสียดายบ้างเหรอคะ?
มีพูดอะไรแบบนั้นกันด้วยเหรอครับ? ฮ่าฮ่า มีเรื่องที่น่าเสียดายอยู่แล้วครับ อย่างเรื่องเวลาที่จีพยองกับดัลมีเจอกันมีไม่มากเท่าไหร่ แต่การที่จีพยองและดัลมีไม่สานต่อความสัมพันธ์ ผมคิดว่าดูจริง และดีมากครับ ในชีวิตจริง คนที่ผมชอบ ก็ไม่มีอะไรมารับประกันว่าเขาจะชอบผมกลับใช่ไหมล่ะครับ ผมคิดว่าเนื้อคู่ของจีพยองคงจะอยู่ที่อื่น และก็รู้สึกขอบคุณที่มีหลายท่านสนับสนุนจีพยองมากพอๆกับที่รู้สึกเสียดายครับ
การแสดงบทรับเชิญของมุนเซยุนในละคร เป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก เรื่องมันเป็นมาอย่างไรคะ?
ผู้กำกับโอชุงฮวาน เป็นแฟนรายการ <Delicious Guys> ทาง Comedy TV ครับ และพอเห็นว่าผมถ่ายทำรายการร่วมกับพี่เซยุนใน <2 Days & 1 Night Season 4> ก็เลยมาลองถามผมว่าช่วยขอร้องให้พี่เซยุนมาเป็นนักแสดงรับเชิญได้ไหม เรื่องเป็นแบบนั้นครับ พอดีกับที่ทางรายการ <Amazing Saturday_DoReMi Market> โทรติดต่อเข้ามา ผมคิดว่าว่าพี่เขาจะต้องตอบแทนกลับแน่นอน เลยตัดสินใจไปออกรายการทันทีครับ
ทันทีที่ละครเวที <ICE> เปิดจำหน่ายตั๋ว ที่นั่งก็หมดทันที หลังจากที่ได้รับความนิยมพุ่งสูงจากละคร ‘Start-Up’ นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้เจอกับผู้ชม ไม่รู้สึกกดดันเหรอคะ?
กดดันแน่นอนอยู่แล้วครับ เพราะว่าเป็นตัวละครที่แตกต่างจากบทของจีพยองเลย และเป็นละครเวทีที่ได้แสดงแค่ปีละ 1 ครั้ง แค่คิดว่าจะได้เจอกับผู้ชมเยอะๆโดยตรง ก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆแล้วครับ ความตื่นเต้นกลายเป็นตัวกระตุ้นที่ดี ทำให้มีความสุขมากๆในทุกช่วงเวลาครับ
หลังละครจบ ก็ต่อด้วยละครเวทีทันที เวลาฝึกซ้อมพอเหรอคะ?
เพราะตารางงานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ผมเข้าร่วมการฝึกซ้อมล่าช้าครับ นักแสดงท่านอื่นไปถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ผมเลยต้องจำบทละครให้แม่นเร็วๆ แต่ว่านักแสดงที่แสดงร่วมกันโปรมากๆ อีกทั้งผู้กำกับจางจิน เป็นคนเก่งและใจดี เลยเข้าใจและช่วยแนะนำผมครับ รู้สึกขอบคุณมากจริงๆครับ เป็นเพราะพวกเขา ผมเลยได้เรียนรู้เยอะมากครับ
ละครเวทีมอบพลังแบบไหนให้คะ?
ถ้าได้ฝึกซ้อมละครเวที แม้จะว่าร่างกายจะเหนื่อย แต่ก็รู้สึกฮีลลิ่งมากกว่าครับ ผมมีความคาดหวังว่า ถ้าฝึกซ้อมอย่างตั้งใจ ก็จะพัฒนาขึ้นครับ แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จากผู้ชมจะรู้ได้ทีหลัง แต่จะมีช่วงเวลาที่รู้ด้วยตัวเองว่าความสามารถอัพเกรดขึ้น เป็นเพราะช่วงเวลาแบบนั้น ผมเลยอยากเข้าร่วมแสดงละครเวทีไปเรื่อยๆครับ
พอจะบอกเจาะจงได้ไหมคะ ว่าเป็นช่วงเวลาแบบไหน?
ตอนที่ฝึกซ้อมก่อนหน้านี้ ผู้กำกับจางจินได้วิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหวของผม แล้วแนะนำวิธีใหม่ในการตีบทให้ผมครับ ผมสนุกกับช่วงเวลาที่ได้คิดและช่วยพัฒนาเกี่ยวกับการแสดงร่วมกัน ผมมั่นใจว่า ถ้าได้ค้นพบในสิ่งที่ไม่รู้ และผมรับคำแนะนำเหล่านั้นเข้ามา ผมจะสามารถโชว์ให้ผู้ชมเห็นภาพลักษณ์ที่ดีกว่าเดิมได้อย่างแน่นอนครับ
เมื่อไม่นานมานี้ ได้เล่น MV ของ Epitone Project เป็นการเล่น MV ครั้งแรกหลังจากเดบิวต์ใช่ไหมคะ?
ผมมีความคิดที่อยากจะลองเล่น MV มานานแล้วครับ พอมีเสนอเข้ามาเลยดีใจมากๆ เป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานในเพลงของคนเก่งๆครับ ก่อนหน้านี้ผมฟังเพลงของคุณยุนฮามาเยอะมาก และได้โอกาสมาเป็นแฟนคลับตอนที่ถ่ายทำครั้งนี้ให้ Epitone Project ครับ ตัว MV นั้น จะไม่มีบทพูด เลยเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิในการแสดงออกมาให้สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นความสนุกแบบใหม่ที่ได้แสดงจากการตีความในแบบของผมเองผ่านการกำกับของผู้กำกับ
ถ้ารวมประสบการณ์ทำงานจากการแสดงละครเวทีด้วย ก็เกิน 10 ปีแล้วนะคะ คิดว่าคิมซอนโฮเป็นนักแสดงแบบไหนคะ?
10 ปีแล้ว แต่ผมก็ยังมีข้อบกพร่องเยอะอยู่เลยครับ ตอนสมัยเด็ก ผมคิดว่าตัวเองเข้าใจและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วในเรื่องการแสดง แต่ว่ามันเป็นการคิดไปเองครับ ยิ่งแสดง ก็ยิ่งเห็นจุดบกพร่องอยู่บ่อยๆ ดังนั้น เลยอยากก้าวไปช้าๆ เพราะผมเชื่อว่าถ้าทำแบบนั้น ผมลัพธ์ที่ดีจะต้องตามมาแน่นอน ตอนที่ถ่ายละคร <Start-Up> มีทั้งความกังวล และความไม่สบายใจเยอะมาก แม้จะพยายามปรึกษากับผู้กำกับ ผู้เขียน และปรับแต่งตัวละคร แต่จริงๆแล้ว ผมรู้สึกวิตกกังวลมากจนถึงตอนออนแอร์เลยครับ เตรียมพร้อมที่จะโดนว่าเลยครับ ผมคิดว่ายังไม่สามารถยืนยันได้ว่า คิมซอนโฮเป็นนักแสดงแบบไหนครับ
กระแสตอบรับดีตั้งแต่ละคร <Start-Up> ออนแอร์วันแรกเลยนี่คะ น่าจะปล่อยวางได้ใช่ไหม?
รู้สึกไม่อยากเชื่อครับ เพราะตอนที่ถ่ายทำ พวกเราคุยกันประมาณว่า “จีพยองน่าหมั่นไส้” แต่ว่าเพราะบุคลิกแบบนั้นของจีพยอง กับการเล่าเรื่องเศร้าๆ เลยอาจจะเอ็นดูกัน ทั้งคาดไม่ถึงและก็รู้สึกขอบคุณครับ
ก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่า จะอยู่ในรายการ <2 Days & 1 Night> ให้นานกว่าทุกคน มีเวลามากพอที่จะแสดงละครและถ่ายทำรายการวาไรตี้ไปพร้อมกันเหรอคะ?
ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมไม่รู้เลยว่าเมมเบอร์ <2 Days & 1 Night> จะกลายเป็นคนพิเศษที่เหมือนครอบครัวแบบนี้ ผมอยากจะทำงานร่วมกับทุกคน ไม่อยากให้ขาดใครสักคนในทีมเลยครับ และก็เมื่อไม่นานมานี้ ผมก็คิดว่ารายการวาไรตี้ช่วยได้มากต่อผลงานอื่นๆ ก่อนหน้านี้ รุ่นพี่ชาแทฮยอนได้ส่งข้อความมาให้นักเขียนของ <2 Days & 1 Night> ถึงผม เนื้อหาประมาณว่า “เป็นสถานการณ์ที่ไม่ว่าใครก็กังวล แม้จะไม่รู้ว่าสถานการณ์นี้จะช่วยสำหรับการแสดงได้ไหม แต่ก็อยากให้รักษาไว้’ ครับ แม้จะยังมีเรื่องกังวล แต่ผมคิดว่า ผมมั่นใจมากขึ้นในเรื่องการแสดง และคิดว่าถ้าเรามอบความเชื่อใจที่แน่วแน่ต่อคนดู ภาพลักษณ์ในรายการวาไรตี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แล้วครับ
ตอนนี้โชว์ให้เห็นทั้งเส้นทางการแสดงละครโทรทัศน์ รายการวาไรตี้ ไปจนถึงละครเวที อะไรคือแรงผลักดันที่ทำให้ทำงานได้ตลอดแบบนี้คะ?
ผมคิดว่าเป็นเพราะความไม่ประสีประสาด้วย และถ้ารู้ว่ามีแฟนคลับที่สนับสนุนผมดูอยู่ อารมณ์ก็จะดีขึ้นมากจริงๆครับ การที่ให้ความคิดเห็นหลากหลายแบบต่อการแสดงของผมก็น่าสนใจครับ แม้ผมจะมีความสุขที่ได้แสดง แต่การที่มีหลายท่านคอยติดตามด้วยความรัก ก็ยิ่งรู้สึกมีพลัง และอยากทำงานครับ
ถ้าให้คำนิยามหนึ่งคำ ถึงปี 2020 ที่ผ่านมา?
เป็น ‘ปีที่เหมือนของขวัญ’ ครับ เป็นของขวัญชิ้นใหญ่พิเศษที่มาหาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า รู้สึกขอบคุณที่ได้ร่วมงานกับคนดีๆ ทั้ง <2 Days & 1 Night> และ <Start-Up> และผู้คนรอบตัวก็ทำให้ผมมีความสุข เพราะช่วยทำให้ผมได้รู้อีกครั้งว่ามีคนสนับสนุนผมมากแค่ไหน
อยากทำให้ปี 2021 นี้ เป็นปีแบบไหนคะ?
ถ้าสามารถทำให้ทุกคนเชื่อได้ว่านี่คือ ‘นักแสดงที่เชื่อถือได้’ ก็คงจะดีกว่านี้ครับ คงจะมีความหมายมากจริงๆถ้าทุกคนคิดว่า ผมยังสามารถแสดงบทบาทได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นนักแสดงที่อยากจะดูต่อไปเรื่อยๆ แม้จะมีความกดดันว่า ‘ถ้าทำให้ผิดหวัง จะทำอย่างไร’ แต่ว่าในความเป็นจริง ผมก็ไม่มีอะไรตอบแทนนอกจากการแสดง ผมอยากจะโชว์ให้เห็นภาพลักษณ์ที่ผมตั้งใจทำงานด้วยความมั่นใจครับ
Cr Atstar1 magazine February