[บทสัมภาษณ์] สิ่งที่สร้างคิมซอนโฮ
นักแสดงคิมซอนโฮคิดว่า ‘นี่เราเคยช่วยเหลือสักมณฑลเมื่อชาติที่แล้วหรือเปล่า’ ขณะที่ถ่ายทำละคร ‘Strongest Deliveryman’ ละครศุกร์-เสาร์ ทางช่อง KBS2 เมื่อปีที่แล้ว เพราะเขาคิดว่าตัวเองได้รับความช่วยเหลือดีมากๆ และปีนี้เมื่อเขาถ่ายทำละคร ‘Two Cops’ ละครจันทร์-อังคาร ทางช่อง MBC ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป เพราะน่าจะช่วยเหลือประเทศเล็กๆสักประเทศมาแน่ๆ นั่นเพราะเขาสามารถแสดงและเป็นพาร์ทเนอร์ที่เข้าขากันได้ดีกับนักแสดงรุ่นพี่โจจองซอก ได้อย่างน่าอิจฉา คิมซอนโฮกล่าวว่า “ทุกคนน่าจะอิจฉาผม” พร้อมกับหัวเราะอย่างเขินๆ
คิมซอนโฮเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่เติบโตอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ปี เขาเคยแสดงละครเวทีอยู่เป็นประจำ เมื่อปีที่แล้วเขาได้ร่วมแสดงละครโทรทัศน์ถึง 3 เรื่อง และได้รับบทนำในมินิซีรีย์ของช่องหลัก แต่สิ่งที่ทำให้คิมซอนโฮดีใจอย่างมาก ไม่ใช่เพราะบทบาทที่แสดง แต่เป็นเพราะได้แสดงร่วมกับรุ่นพี่ที่นับถือ เช่น โจจองซอก, พัคฮุน, โออึยชิก ที่ทำให้เขามีความสุข “เกินความคาดหมายมากครับ เหมือนเป็นเส้นทางที่ทำให้ผมเป็นนักแสดงที่ดีขึ้นกว่าเดิม และเติบโตมากขึ้นกว่าเดิมครับ”
เป็นเพราะได้เข้าร่วมแสดงในผลงานที่เต็มไปด้วย ‘จิตวิญญาณมุ่งมั่น’ ทำให้คิมซอนโฮมีประสบการณ์เฉพาะตัวในการแสดงออกถึง ‘จิตวิญญาณ’ แม้ว่าตอนแรกจะเกร็งๆที่ต้องแสดงเป็นตัวละครที่มองไม่เห็น และไม่ได้ยินเสียง แต่ก็พยายามปรับตัว จนถ่ายทอดออกมาได้อย่างสนุกสนาน อีกทั้งเขายังสร้างสรรค์ผลงานของผู้กำกับคงซูชาง ร่วมกับโจจองซอกออกมาได้อย่างดีเกินคาด ทั้งสองคนวิเคราะห์ตัวละครด้วยกัน และสวมบทบาทได้เป็นอย่างดี คิมซอนโฮผู้ประทับใจการแสดงของโจจองซอกมากตั้งแต่แรกนั้น ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเขาอย่างกระตือรือร้นทันที และเป็นที่พึ่งพิงในฐานะ ‘เพื่อนนักแสดง’ คิมซอนโฮกล่าวว่า “รู้สึกเหมือนช่วยกันก่ออิฐสร้างหอคอยเดียวกัน”
คิมซอนโฮตอนเด็ก เป็นเด็กที่ชอบเก็บตัว ซึ่งเป็นนิสัยที่เหมือนกับคุณแม่ บาดแผลทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังจากเห็นเหตุการณ์โจรปล้นบ้านตอนช่วงประถม ทำให้เขาไม่สามารถรับมือเมื่อได้รับความสนใจจากผู้คนได้ ด้วยเหตุนี้ การที่เขาก้าวเข้าสู่การแสดง จึงเป็นเรื่องของโชคชะตามากกว่าเรื่องบังเอิญ “ผมตามเพื่อนไปที่คังนัม เพื่อนที่เป็นนักร้องในวงเป็นคนชวนไป” เขาก็เลยตามไปที่สถาบันสอนการแสดง สถานที่ทำให้เขาค้นพบความสนุกที่เอาชนะความกลัวเก่าๆและนิสัยที่ติดตัวมาแต่เกิดได้
“จู่ๆเขาก็บอก ‘ให้ลองดู’ ผมเลยลองแสดงครับ แน่นอนว่ามันเละเทะมาก แต่ว่าการพูดบทละคร มันคือการเสริมคำพูดที่เราอยากพูดเข้าไปในข้อความที่ใครสักคนเขียนไว้ เหมือนกำลังปล่อยลมหายใจทีละนิด การที่ใครสักคนมองผม พร้อมกับให้คำแนะนำทีละอย่าง ผมรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ผู้คนมองผมครับ”
เหมือนกับที่ “ไม่เคยคิดจะเข้ามหาวิทยาลัย” แม้ทักษะจะยังด้อย แต่คิมซอนโฮก็ไปสถาบันก่อนใครทุกวัน และโชว์การแสดงที่เขาฝึกซ้อมมา เป็นเพราะว่า “ถ้าเพื่อนคนอื่นแสดงก่อน ผมจะกลัวและเขินอาย จนแสดงไม่ได้ครับ” นิสัยและบาดแผลทางจิตใจของคิมซอนโฮยังคงส่งผลต่อเขา เพราะมักจะอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเสมอ เขาเลยลดความตื่นเต้นตอนที่ออดิชั่นครั้งใหญ่ได้ “ผมคิดว่า ผ่อนคลาย แล้วผลลัพธ์จะออกมาดีครับ”
หลังจากเดบิวต์ละครเวที ‘New Boeing Boeing’ เขาก็ได้เล่นผลงานมีชื่อเสียงในแถบย่านมหาวิทยาลัยอีกมากมาย เช่น ‘Rooftop Room Cat’, ‘True West’, ‘Kiss of the Spider Woman’ และเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่มีแฟนคลับครั้งแรก เขาก็คิดว่า ‘ว้าว เราก็มีแฟนคลับเหรอเนี่ย?’ แม้จะดีใจแต่เขาก็คิดว่า “เรื่องมหัศจรรย์นี้ คงมีแค่เดือนเดียว” คิมซอนโฮที่เคยคิดว่า “ผมยังเด็ก เลยไม่คิดฝันที่จะมีชื่อเสียงมากกว่านี้” ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว “ผมหมกมุ่นกับการตามหาสิ่งที่จะพัฒนาตัวเอง”
กลุ่มแฟนคลับบางส่วนที่คอยติดตามเขามาตั้งแต่เดบิวต์ ต่างก็รู้สึกเศร้าที่เขาห่างเหินไป ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น คิมซอนโฮจะตอบว่า “ผมห่างเหินจากพวกคุณเหรอ?” “คนที่ดูแลผมเพิ่มมากขึ้น คนที่ผมต้องดูแลก็มากขึ้นเช่นกัน” และ “แม้จะรู้สึกว่าไม่ได้เปลี่ยนไป” แต่ “ก็ยังไม่แน่ใจ” ว่าตัวเองเปลี่ยนไปจริงไหม ถึงอย่างนั้นเขาก็มีสิ่งที่ไม่อยากสูญเสียไป นั่นคือความอ่อนน้อมถ่อมตน
“คำพูดที่คุณแม่มักจะพูดบ่อยๆคือ ‘เมื่อหาเงินได้เยอะ ก็ต้องช่วยเหลือคนที่ลำบาก และถ่อมตนเสมอ’ แม้ว่าการพูดว่า ‘เป็นนักแสดงที่ถ่อมตน’ จากปากผมเองจะดูตลก แต่ผมมักจะคิดอยู่เสมอว่า ผมยังเป็นคนที่มีข้อบกพร่อง และยังมีหนทางที่จะพัฒนาได้อยู่” คุณแม่ของคิมซอนโฮผู้สนับสนุนค่าเล่าเรียนนั้นกล่าวว่า “แม่ใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความฝัน การแสดงคือความฝันของลูก อย่าปล่อยให้มันเหี่ยวแห้งไป”
คิมซอนโฮกล่าวว่า “เป็นความรู้สึกที่เริ่มต้นจากระดับต่ำกว่าคนอื่น และตอนนี้ขึ้นมาได้เท่าๆกับคนอื่น” ชีวิตของเขามักจะเป็นแบบนั้นเสมอ ความทรงจำแรกในชีวิตคือ “ตอนที่คุณแม่จับหนูในบ้านกึ่งชั้นใต้ดิน” แม้สภาพความเป็นอยู่จะยากลำบากพอๆกับงานที่ทำ แต่คิมซอนโฮก็กล่าวว่า “บ้านเราไม่เคยรู้สึกถึงคำว่า พังพินาศ” เพราะรู้สึกได้ถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ “ผมมีความสุขจริงๆครับ คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยแสดงให้เห็นความยากลำบากของท่าน และเลี้ยงดูผมมาอย่างดีมากครับ” คุณพ่อคุณแม่ของคิมซอนโฮตอนนี้อาศัยอยู่ใน “บ้านที่มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ” คิมซอนโฮซาบซึ้งและภูมิใจในพ่อแม่ของเขามากๆ
ช่วงนี้เขากำลังสนใจการออกกำลังกายและดูแลตัวเอง เพราะได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อนที่เป็นพนักงานบริษัท เขากล่าวกับคิมซอนโฮว่า “เหมือนกับการที่พนักงานบริษัทไม่ได้ทำงานเก่งแค่ในบริษัท นายเองก็เหมือนกัน การดูแลตัวเอง (นอกเหนือจากการถ่ายทำ) เป็นสิ่งที่ควรทำ” คิมซอนโฮเล่าว่า “สมองผมก็ ปิ๊ง~ ขึ้นมาเลย” หลังจากนั้น ก็ไปคลินิกผิวอย่างไม่รู้สึกเขินอายอยู่เป็นประจำ
“ผมเคยคิดว่า ทำไมถึงไม่เลือกสิ่งที่เท่และดีเยี่ยมนะ ผมไม่ถนัดร้องไห้แบบเท่ๆ เพราะรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดมากกว่าเวลาที่ข่มความเจ็บปวดพร้อมกับร้องไห้ออกมา มันเป็นความคิดที่คิดในตอนนี้ น่าจะเป็นเพราะผมเติบโตมากับการมองเห็นภาพชีวิตธรรมดาทั่วไป ภาพของห้องน้ำสาธารณะ หรือภาพของคุณลุงคุณป้าในแถบหมู่บ้านคนจน สิ่งเหล่านั้นน่าจะเป็นสิ่งที่สร้างความรู้สึกของผม แต่ว่า อันนี้ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะต้องเรียนรู้วิธีการแสดงแบบเท่ๆทุกอย่างด้วย ตอนนี้ผมกำลังพยายามเต็มที่และเปิดเผยตัวตนให้มากขึ้นครับ”
[BizEnter = นักข่าวอีอึนโฮ]
Credit : etoday
http://enter.etoday.co.kr/view/news_view.php?varAtcId=134459#cb
ขอบคุณมากนะคะที่แปลสัมภาษณ์ให้ตลอดเลย อ่านแล้วรู้สึกดีใจที่ได้รู้จักนักแสดงคนนี้ .. นางเต็มที่กับการแสดงและรักครอบครัว
ยังไงขอเป็นกำลังใจให้แอดนะคะ
ขอบคุณเช่นกันค่ะที่ตามอ่าน จะมาอัพเดทเรื่อยๆนะคะ