“เป็นความรู้สึกที่เหมือนจู่ๆวันหนึ่งก็ได้รับของขวัญชิ้นใหญ่” ของขวัญที่เรียกว่าซอนโฮที่มาส่งถึงพวกเรา
NOW & FOREVER
Double Jacket แบรนด์ Versace by Mue, สร้อยคอ แบรนด์ Hurjaboy
เสื้อเชิ้ตลายดอก และกางเกงขายาวสีขาว แบรนด์ Valentino
เสื้อเชิ้ตดีเทลจับจีบ แบรนด์ Lanvin by Mue, กางเกงขายาวสีฟ้า รองเท้าคัทชูพื้นยาง และเข็มขัด แบรนด์ Bottega Veneta
ยุ่งมากใช่ไหมคะ?
น่าจะเพราะยุ่งมากเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองยุ่ง พอช่วงที่ละครจบถึงรู้สึกได้ครับ พอละครจบแล้ว แต่ยังมีงานเข้ามาไม่หยุด ทั้งการที่ได้มาสัมภาษณ์แบบนี้ ทั้งได้ร่วมรายการวาไรตี้ เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก รู้สึกขอบคุณจริงๆครับ แม้จะมีช่วงที่ร่างกายอ่อนเพลียบ้าง แต่ก็สนุกดีครับ
คิมซอนโฮ กับคิมซอนโฮในความคิด แตกต่างกันมากไหมคะ?
น่าจะคล้ายกันนะครับ โดยส่วนตัว ผมคิดว่ายังเป็นคนที่มีข้อบกพร่อง และเป็นคนที่ช้าครับ แต่ว่า ถึงผมจะเชื่องช้า แต่ผมก็เป็นคนที่จะทำสิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่อยากทำ และสิ่งที่ชอบให้สำเร็จครับ มั่นใจว่าทำได้ครับ
มีฉายาติดตัวมาว่าเป็นนักแสดงที่ต้องใช้ทั้งความพยายามและเวลา แรงผลักดันที่ทำให้กลายเป็นนักแสดงคิมซอนโฮมาจากที่ไหนคะ?
การที่มีคนช่วยสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น เหมือนจะเป็นแรงผลักดันให้กับผมครับ เมื่อก่อนนั้น คิดแค่ว่าการแสดงทำให้เราสนุกและมีความสุข จึงเป็นแรงผลักดันให้ทำ แต่ว่านั่นไม่ใช่ทั้งหมดครับ
ตอนนี้ได้รับรางวัลรุกกี้สาขาวาไรตี้โชว์ จากวาไรตี้ <2 Days & 1 Night> ในงาน < KBS Entertainment Awards> แล้ว
รู้สึกขอบคุณมากครับ รายการ <2 Days & 1 Night> เป็นรายการที่ต้องโชว์นิสัยในชีวิตประจำวันของผมใช่ไหมล่ะครับ เพราะฉะนั้น ผมก็เลยคิดหนักว่า ‘ภาพลักษณ์แบบนี้ของเรา จะโชว์ออกไปได้ไหมนะ’ แม้กระทั่งเวลาพักก็แทบจะไม่มีเลยครับ เพราะว่าต้องถ่ายทำอยู่หน้ากล้องตลอด การที่ต้องอยู่กับความตื่นตัวตลอด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ แต่ว่าพอสนิทกับทีม <2 Days & 1 Night> รวมถึงเมมเบอร์มากขึ้น ก็รู้สึกเชื่อใจครับ และคิดว่า ‘คงจะดูอย่างละเอียด แล้วทำให้ออกมาดี ให้ดูเท่ ให้เท่ากับที่รู้จักผมดี’ ตอนนี้ก็สนุกกับรายการครับ
ละครเวทีก็ยังทำควบคู่กันอยู่เรื่อยๆ เมื่อปีที่แล้วก็มีละครเวที หาได้ยากมากเลยที่นักแสดงอายุน้อยจะแสดงละครเวทีควบคู่ไปกับละครโทรทัศน์
ความปรารถนาที่อยากจะทำการแสดงยังคงมีอยู่มาก และคิดว่าเวลาที่ขึ้นแสดงละครเวที ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการแสดงเยอะครับ ละครเวทีเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิอย่างมากตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือ 2 ชั่วโมงใช่ไหมล่ะครับ ผมได้เรียนรู้ทุกครั้งว่าถ้าไม่ตื่นตัว ก็จะหลุดจากตัวละคร หรือทำให้บทละครเวทีมันเปลี่ยนไปได้ง่าย
การอยู่ต่อหน้ากล้องถ่ายทำละคร กับการแสดงบนละครเวที แตกต่างกันอย่างไรคะ?
ระยะเวลาครับ ในส่วนของละครโทรทัศน์ ช่วงที่ทำการแสดงอย่างเต็มที่ให้เหมาะสมกับซีนนั้น ก็ต้องแสดงออกโดยคิดถึงสถานการณ์ถัดไปด้วย จะช่วยทำให้เห็นผลงานได้กว้างขึ้น ในทางตรงกันข้าม ละครเวทีจะต้องมีสมาธิเพราะเหมือนมีระเบิดเวลาวิ่งอยู่ตลอด ในขณะเดียวกัน การถ่ายทำที่ยาวนานของละคร กับการแสดงแบบรวดเร็วของละครเวที ก็ทำให้รู้สึกว่ามีประสบการณ์และเติบโตขึ้นในฐานะนักแสดงครับ
‘ฮันจีพยอง’ ในละคร <Start-Up> เป็นบทที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในตอนนี้ จากบรรดาตัวละครที่เคยแสดงและได้รับความนิยมมาทั้งหมด ความรักที่มีต่อฮันจีพยองน่าจะพิเศษ เหมือนกับที่เคยพูดว่า “ต้องหาว่าสิ่งที่เขาขาดคืออะไร จะได้มีความรู้สึกร่วมกับฮันจีพยองมากขึ้น”
จีพยองเป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบใช่ไหมล่ะครับ ทั้งสร้างเนื้อสร้างตัวจนประสบความสำเร็จ และเป็นคนสุภาพ ก็เลยอยากจะเข้าใจเขาให้มากกว่านั้นครับ อยากจะรู้สิ่งที่เขาขาดให้มากขึ้น เพื่อที่จะแสดงออกให้สมจริง รวมถึงอดีตที่เคยอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วย ผมคิดว่าสิ่งที่จีพยองขาด คือความรักครับ ผมเลือกที่จะแสดงให้วิธีการให้ความรัก และวิธีบอกรักของเขาแตกต่างออกไปเล็กน้อย
นึกถึงบทสัมภาษณ์หนึ่งที่กล่าวว่า “มีบางช่วงที่ผมสามารถแสดงออกไปเองโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับการขยับตัวเต้น” การแสดงสำหรับคิมซอนโฮเป็นเรื่องที่สนุก? หรือเป็นเรื่องที่กังวลใจคะ?
เหมือนจะเป็นทั้งสองอย่างครับ ถ้าจะให้สนุกก็เหมือนจะต้องกังวลด้วย พอลองคิดเยอะๆแล้ว ก็จะรู้สึกสนุกอย่างไม่คาดคิดด้วย ที่พูดถึงเรื่องการเต้น ไม่ใช่เพราะว่าการแสดงพัฒนาได้ช้า แต่เพราะว่ามีบางช่วงที่เหมือนจะพัฒนาแบบก้าวกระโดดราวกับตระหนักได้เอง ตอนที่แสดงครั้งแรกนั้น ผมได้ยินคำพูดว่า “แสดงได้พังมาก” ด้วยครับ (หัวเราะ) เพราะฉะนั้น ผมรู้ว่านักแสดงใหม่ประสบปัญหาแบบไหนเวลาแสดง ถึงแม้จะช่วยอธิบายได้ แต่ก็ต้องตระหนักได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับเผชิญหน้ากับมัน พอทำแบบนั้นแล้ว สักวันก็จะพบว่าการแสดงของตัวเองดีขึ้นมากครับ
เหมือนที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ช่วงที่เริ่มแสดงครั้งแรก ไม่มีใครคาดหวังว่าคุณจะเติบโตในฐานะนักแสดง แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่เห็นกลับตรงกันข้ามเลย พอย้อนกลับไปมองการเติบโตของนักแสดงคิมซอนโฮแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างคะ?
ช่วงแรกนั้น ทั้งการออกเสียง การเปล่งเสียง ไม่ดีเลยครับ เวลาที่พูดเสียงต่ำ การออกเสียงจะไม่ชัด เหมือนกับพูดพึมพำในลำคอ แต่เพราะมีความปรารถนาอย่างมากที่จะเป็นนักแสดงที่ดี และอยากจะโชว์การแสดงที่ดีให้ผู้ชมเห็น ก็เลยแก้ไขตรงนี้ได้ครับ เมื่อไม่นานมานี้ พี่(อี)ชีออน ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นในมหาวิทยาลัยบอกว่า “การเปล่งเสียงของนายแตกต่างจากตอนอายุ 20 ปีไปมากเลยนะ” ผมภูมิใจมากครับ
เป็นคนที่ตั้งใจฟังเรื่องราวของฝ่ายตรงข้ามใช่ไหมคะ? เห็นเคยพูดไว้ว่า สิ่งที่ต้องรักษาไว้ในฐานะนักแสดงคือ “การรับฟังคำพูดของนักแสดงอีกฝ่าย”
มันก็จะมีบางครั้งที่คุยกันแม้ว่าเนื้อหาจะเป็นคนละเรื่องกับที่อยากคุยใช่ไหมล่ะครับ ผมเองก็อยากจะแสดงสีหน้าท่าทางที่ดีแบบจริงใจ แต่ว่า การแสดงสีหน้าท่าทางให้ชัดเจน มันไม่ง่ายเลย ถ้าใช้คำพูดสวยหรู บางทีการแสดงออกก็แตกต่างจากเนื้อหาที่พูดเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ผมเลยตั้งใจฟังคำพูดของแต่ละคนครับ
วันนี้รู้สึกชื่นชมกับนิสัยของนักแสดงคิมซอนโฮมาก เช่น การที่รับฟังคำพูดของฝ่ายตรงข้าม คุณมีปรัชญาในการใช้ชีวิตสำหรับตัวเองไหมคะ?
เป็นคำที่ได้รับมาจากคุณพ่อคุณแม่ครับ ถ้ารักษาพื้นฐานได้ดี ก็จะเข้าถึงใจคนได้? (หัวเราะ) ยกตัวอย่างเช่น ถ้าทักทายได้ดี ก็จะไม่ถูกเกลียด ถ้ารับฟังคำพูดของฝ่ายตรงข้าม ก็จะสามารถแก้ไขข้อเสียได้ ถ้าพูดถึงเป้าหมาย ผมอยากจะเป็นนักแสดงที่ทุกคนอยากจะร่วมงานด้วยอีกในครั้งหน้าครับ การที่อยากมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง มันไม่ใช่เพราะชื่อเสียงหรือการแสดงเท่านั้น แต่เพราะเป็นนักแสดงที่มีเรื่องดีในหลายๆด้านด้วย
ช่วงนี้มีคำพูดที่โดนใจไหมคะ?
ตอนที่เริ่มแสดงละครเวที <True West> เมื่อ 6 ปีก่อน ผู้กำกับและพี่โอมันซอกที่เป็นนักแสดง ได้พูดคำนี้เอาไว้ครับ ว่า “อ่านบทละครไปเรื่อยๆ อ่านให้ละเอียดสัก 13 รอบ ก็จะช่วยให้แสดงได้ดี” มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมล่ะครับ ถึงแม้จะทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ แต่ผมก็คิดว่าไม่ควรละเลยการอ่านบทละครโดยการอ้างว่าช่วงนี้ยุ่งนะ ผมรู้สึกผิดและอยากจะก้าวไปข้างหน้าให้มากกว่าเดิมครับ
รู้สึกอย่างไรกับฟีดแบคจากแฟนด้อม ‘ซอนโฮฮาดา’ คะ? เห็นมีการคอมเม้นท์ว่า “การแสดงแบบนี้ในวันนี้ดีมาก” และเขียนรีวิวอย่างละเอียดเลย
รู้สึกขอบคุณและก็ทึ่งมากครับ การที่ซอนโฮฮาดาช่วยดูการแสดงอย่างละเอียด ทำให้รู้สึกเหมือนพวกเขาเห็นความจริงใจและความตั้งใจในการแสดงของผมครับ ในฐานะนักแสดง การอธิบายอย่างละเอียดก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ผมก็อยากให้มีพื้นที่สำหรับจินตนาการด้วย รู้สึกเหมือนโดนรู้ทันหมดหรือเปล่านะ? (หัวเราะ) ขอบคุณครับ ผมคิดว่าแฟนๆน่าจะรู้จักผมดี เลยมองออกมาแบบนั้นครับ
ช่วงนี้มีภาพยนตร์หรือละครที่ดูแล้วคิดว่า ‘ถ้าเราแสดงตัวละครนี้จะเป็นอย่างไรนะ?’ บ้างไหมคะ?
เคยลองคิดว่า เราจะแสดงบทของ Robert De Niro ในภาพยนตร์เรื่อง <The Intern> ได้หรือเปล่า ในภาพยนตร์ De Niro เป็นชายวัยกลางคนที่เกษียณงาน และมีฉากหนึ่งที่กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในคาเฟ่ครับ ไม่ได้เป็นการแสดงที่มอบพลังให้ แต่รู้สึกว่า ว้าว เป็นธรรมชาติมาก…พอดูการแสดงของเขาแล้ว ก็คิดว่า ‘เราจะสามารถแสดงได้เป็นธรรมชาติแบบนั้นไหมนะ?’ อยากจะลองรับบทที่เป็นชีวิตประจำวันทั่วไป แต่ก็ดูเป็นธรรมชาติครับ
คิดว่า ‘ตอนนี้’ เป็นช่วงเวลาแบบไหนสำหรับนักแสดงคิมซอนโฮคะ?
ผมมีความรู้สึกขอบคุณมากล้นในทุกนาที บางทีก็คิดว่า ‘เรามีคุณสมบัติพอที่จะได้รับความสนใจมากมายขนาดนี้เหรอ?’ ชีวิตประจำวันก็เปลี่ยนไปบ้างเช่นกัน ตอนแรกไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็ปรับตัวได้มากขึ้น และเพื่อไม่ให้เป็นการคุ้นชินจนเกินไป ผมจะไม่ลืมความรู้สึกขอบคุณนี้แน่นอนครับ น่าจะเป็นความรู้สึกที่เหมือนจู่ๆวันหนึ่งก็ได้รับของขวัญชิ้นใหญ่หรือเปล่านะ? ผมอยากจดจำและรักษาช่วงเวลานี้เอาไว้ครับ
กล่าวได้ว่า อาชีพของนักแสดงคิมซอนโฮนั้นดูมั่นคง และพร้อมเต็มที่ที่จะทำการแสดง มีสิ่งที่ตัดสินใจไว้ว่าปีนี้จะลองทำอันนี้ดู บ้างไหมคะ?
ขอบคุณที่กล่าวเช่นนั้นนะครับ (หัวเราะ) เมื่อไม่นานมานี้ได้ลองเล่นบทที่ค่อนข้างยากอย่าง ฮันจีพยอง ในละคร <Start-Up> ตอนที่เริ่มถ่ายทำผลงานนี้ มีช่วงที่ความมั่นใจของผมลดลงไปด้วยครับ ผมอยากจะเก็บความรู้สึกขอบคุณนี้ไว้ แล้วก้าวไปข้างหน้ามากขึ้น ในปีนี้ นักแสดงคิมซอนโฮ อยากจะพิสูจน์ด้วยการโชว์ภาพลักษณ์ที่ดีของตัวละครผ่านการแสดงครับ ไม่อยากให้ใครผิดหวัง และอยากพิสูจน์ให้ได้เห็นในฐานะนักแสดงครับ
คำถามสุดท้ายแล้วค่ะ เป็นคำถามที่แตกต่างจากตอนแรกนิดหน่อย ตอนนี้ คิมซอนโฮคิดว่า คิมซอนโฮในความคิดนั้น เป็นคนแบบไหนคะ?
หลังจากสัมภาษณ์ไปได้สักพัก ผมก็ยังคิดว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีความปรารถนาเยอะอยู่นะ หรือเพราะตลอดการสัมภาษณ์พูดถึงการแสดงมากเกินไป (หัวเราะ) แต่ผมก็ยังหวังว่าจะเป็นนักแสดงที่ดี ให้สมกับที่ผมไม่เคยทิ้งความคิดนี้ไปเลยสักครั้งครับ
Text : Yang Boyeon
Fashion : Nam Joohee
Photography : Kim Yeongjun
Hair : Lee Hyeyoung
Makeup : Lee Young
ชมภาพในนิตยสาร และบทความเพิ่มเติม ได้ใน <DAZED> ฉบับเดือนกุมภาพันธ์
ที่มา http://www.dazedkorea.com/fashion/article/1214/detail.do