Welcome Kim Seon ho

นักแสดงคิมซอนโฮ จากเรื่อง <Welcome to Waikiki 2>  คิมซอนโฮผู้เคยโชว์เสน่ห์ซึนเดเระ ในละครเรื่อง <100 Days My Prince> รอบนี้ได้แสดงบทวัยรุ่นผู้มีความฝันอยากเป็นนักร้อง

ละคร <Welcome to Waikiki 2> มีตัวละครหลักวัยเดียวกัน 6 คน ได้ทำงานร่วมกับนักแสดงที่อายุใกล้เคียงกัน บรรยากาศในสถานที่ถ่ายทำน่าจะแตกต่างจากเดิม

มีเรื่องกังวลคล้ายกันเกี่ยวกับสิ่งที่จะแสดงครับ อีกอย่างครั้งนี้เป็นละครประเภทคอมเมดี้ ก็เลยคิดหนักมากว่าจะต้องทำอย่างไร จังหวะไหนถึงจะเข้ากันได้ อยากจะแสดงให้ดี แต่ว่าพื้นฐานยังไม่แน่นเท่าไหร่ครับ มีความทะเยอทะยานที่จะทำ แต่ความทะเยอทะยานนั้นก็อาจจะทำให้งานออกมาไม่ดีได้ ช่วงที่แสดง ก็มีช่วงที่ยากลำบาก ท่าทางการแสดงของผมยังไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ก็เลยทำให้ทุกอย่างดูยากไปด้วย ถึงอย่างนั้น <Welcome to Waikiki 2> ฉากที่ถ่ายทำก็สนุกสนานเหมือนเป็นเพื่อนกันครับ แน่นอนว่า แม้ผมจะอายุมากที่สุด (หัวเราะ) แต่ก็ตั้งใจรับฟังมากกว่าครับ

ละครประเภทคอมเมดี้ สร้างความตลกเพื่อให้คนดู หัวเราะให้ได้แม้ว่าบทละครจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การแสดงในระดับที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การสร้างผลงานครั้งนี้ที่ต้องหาจุดที่เหมาะสม น่าจะมีส่วนที่ทำให้ต้องกังวลมากแน่ๆ

ผมแสดงเป็น ‘ชาอูชิก’ ที่มีความฝันว่าอยากเป็นนักร้อง เป็นตัวละครที่เคยล้มเหลวจากการเป็นไอดอล และฝันอยากจะเป็นนักร้องอีกครั้ง เป็นตัวละครที่น่าจะไม่ได้เห็นบ่อยๆแต่ก็มีอยู่ในชีวิตจริง เป็นคนเรียนรู้ไว ขี้โมโห แต่ก็ตลก และไม่ลังเลที่จะแสดงออก เรื่องนี้เป็นคอมเมดี้ ก็เลยคิดหนักเกี่ยวกับระดับความ ‘ขี้โมโห’ บางส่วนก็ต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้กำกับเยอะ การหาจุดที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่คิดหนักมากที่สุด ต้องไม่ทำให้คนดูรู้สึกอึดอัด และก็ต้องทำให้ดูตลกในบางครั้ง อีกทั้งผลงานเรื่องนี้ มีนักแสดงร่วมแสดงหลายคน ยิ่งทำให้มีเรื่องแบบนั้นเยอะ นักแสดงต่างก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพื่อที่จะหาแนวทางให้ตัวละครดูโดดเด่นขึ้น เพราะแบบนั้นเลยทำให้เรื่องดูน่าสนใจมากขึ้นครับ

———-

มีนักแสดงเยอะแบบนี้ ไม่รู้สึกกดดันกันและกันเหรอคะ?

ก็มีเรื่องแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่ว่าพวกเราต่างก็คิดหนักเพื่อหาวิธีให้พวกเราเองโดดเด่นในฉากนั้นๆ มันเป็นที่ที่เราได้เรียนรู้มากมายครับ เวลาที่เห็นข้อดีของคนอื่น ก็ยิ่งอยากเป็นคนที่สามารถเก็บเกี่ยวอะไรพวกนี้ได้มากขึ้น สถานที่ถ่ายทำละครเรื่องนี้เป็นแบบนี้แหล่ะครับ การที่ได้พบปะคนเยอะๆ ได้ยินเรื่องเล่าของแต่ละคน ก็น่าจะทำให้ความคิดของเรากว้างขึ้นไม่ใช่เหรอ ทำให้เข้าใจสถานการณ์กว้างขึ้นด้วย หลังจบละครเรื่องนี้ ผมน่าจะแข็งแกร่งขึ้นในหลากหลายทาง

แม้จะไม่ได้แสดงละครโทรทัศน์มาเยอะ แต่มีประสบการณ์จากละครเวทีเยอะมาก มีประสบการณ์ในการแสดงมาอย่างยาวนานขนาดนี้ ช่วงนี้ยังคงรู้สึกหวาดหวั่นกับประสบการณ์ใหม่ๆอยู่ไหมคะ?

เมื่อก่อนผมขี้กลัวมาก ไม่ได้มีนิสัยกระตือรือร้นเท่าไหร่ จะไปเที่ยวก็เคอะเขินคนแปลกหน้ามากๆ เลยได้ลองขึ้นเครื่องบินครั้งแรกตอนอายุ 32 ครับ อันนั้นเลี่ยงไม่ได้ด้วย เพราะต้องไปไว้อาลัยเพื่อน หลังจากนั้น พอถ่ายทำละคร <Good Manager> จบ ก็ให้รางวัลตัวเองโดยการไปพักร้อน ตอนนั้นเองที่ได้รู้เสน่ห์ของการท่องเที่ยวเป็นครั้งแรก หลังจากนั้น ก็เริ่มเที่ยวในประเทศครับ ผมไม่มีความกล้าที่จะทำอะไร แต่การแสดง เป็นหนึ่งสิ่งที่ผมกระตือรือร้นครับ

มีสิ่งที่ชอบนอกเหนือจากการแสดงไหมคะ?

การเดินครับ ถ้าได้เดินแล้ว ก็จะเดินเกิน 2 ชั่วโมง เวลามีเรื่องที่ต้องคิดก็จะเดิน ตอนที่ได้ยินคอมเมนท์ด้านลบช่วงแสดงละครเวที <Kiss of Spider Woman> ผมรู้สึกเหนื่อยมากๆครับ ‘นายดูไม่เหมือนนักโทษการเมือง’ ไม่รู้จะตอบอย่างไรเลย พออยู่คนเดียว ก็อึดอัดใจจนน้ำตาไหล ตอนนั้นใช้เวลาเดินจากย่านมหาวิทยาลัยจนถึงบ้าน 5 ชั่วโมงครับ เดินเรื่อยๆ พอเหนื่อยก็หยุด นั่งคิด แล้วก็ลุกเดินใหม่ หลังจากนั้นก็แข็งแกร่งมากขึ้นในฐานะนักแสดง เป็นช่วงเวลาที่ใช้ค้นหาว่าข้อบกพร่องคืออะไร ข้อดีคืออะไร เดินไปแบบนั้น พร้อมกับอดทนต่อช่วงเวลาที่ยากลำบาก เป็นการอดทนมากกว่าการเอาชนะ ตอนแสดงละครเวที <Closer> ผมได้ร่วมแสดงกับรุ่นพี่เก่งๆ ทั้งรุ่นพี่แพซองอู รุ่นพี่คิมโซจิน ได้เรียนรู้ท่าทางการแสดงของรุ่นพี่เยอะมากเลยครับ ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับผมมากๆ คอยเรียนรู้ว่ารุ่นพี่ทำอย่างไร และก็ดีใจเมื่อผมสามารถพัฒนาได้แบบนั้น เพราะมีความคิดแบบนั้น ผมเลยรู้สึกดี และใจเต้นแรงทุกครั้งที่ทำการแสดง ช่วงนี้ผมชอบการเดินช้าๆขึ้นเขา Bukhansan แล้วก็เดินลงมาครับ ชอบการท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย เพราะสามารถช่วยฮีลได้ เมื่อไม่นานมานี้ก็ไปคยองจูกับเพื่อน ได้กินต็อกคัลบี และก็เช่าสกู๊ตเตอร์คันเล็กๆมาขี่ด้วย เพราะมันเล็กก็เลยขับได้ช้ามาก ผมสนุกกับการได้ยินเสียงรถจากด้านหลังครับ ตอนนี้เริ่มจะมีความกล้าที่จะทำสิ่งใหม่ๆเพิ่มขึ้นทีละนิดๆ

ตอนไหนที่ยังคงทำตัวไม่ถูกจากการที่เป็นนักแสดงคะ?

ตอนที่ได้ยินคำพูดว่าผมเป็นคนดังครับ การได้เห็นนักแสดงคนอื่นๆยังเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผม เพราะตอนเด็กๆผมดูละครเยอะมาก พอได้มาเจอเหล่านักแสดงในละครที่ผมเคยหัวเราะ เคยร้องไห้เพราะเขาตอนนั้นมายืนอยู่ตรงหน้า! (มันน่าตื่นเต้นมากๆ) ถ้ามีใครมาบอกว่าผมเป็นคนดังแล้ว จะรู้สึกจั๊กจี้น่ะครับ

อะไรที่คุณอยากจะเสริมเพิ่มเติมอีกในฐานะนักแสดง?

เป็นคำถามที่ผมก็ถามพี่ชายที่สนิทเมื่อไม่นานมานี้ครับ “ช่วงนี้เวลาอ่านสคริปต์ แล้วเหมือนท่าทางจริงจังกับการแสดงจะเปลี่ยนไป” พี่ชายก็ตอบกลับมาว่า “แสดงว่านายเข้าใกล้จุดนั้นแล้วน่ะสิ” ปกติพี่ชายคนนี้จะชอบพูดตรงๆน่ะครับ ผมอยากได้ยินคำตอบตรงๆแบบนั้น ก็เลยโทรหา ตอนนี้น่าจะถึงเวลาที่ต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักในการแสดงมากขึ้น ผมรู้ข้อดีของตัวเอง แต่เวลาแสดงต้องแสดงน้ำหนักในการแสดงด้วย ถ้าขาดอันนั้นไป การแสดงก็อาจจะดูเบา ผมคิดว่า ผมรู้แค่การแสดงอย่างสนุกๆ แต่ไม่ได้คิดถึงน้ำหนักในการแสดงเลย ทุกวันนี้เหมือนผมจะโลภกับเรื่องหน้าตามากขึ้นด้วย (หัวเราะ) เมื่อก่อนไม่ได้สนใจรูปลักษณ์ภายนอกเลย และเมื่อไม่นานมานี้ได้ถ่ายฉากซ่อมของละคร <Welcome to Waikiki 2> ตอนผู้กำกับดูมอนิเตอร์ เขาก็ถามผมว่า นายดูแลตัวเองมากขึ้นใช่ไหม โอ้พระเจ้า ทำไมผมถึงเป็นแบบนั้นนะ

ละคร <Welcome to Waikiki 2> เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยหนุ่มสาว ชีวิตของวัยรุ่นอาจจะเหมือนเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ แล้วชีวิตของนักแสดงคิมซอนโฮกำลังผ่านฤดูกาลไหนอยู่คะ?

ฤดูร้อนครับ ได้ใช้ชีวิตที่ร้อนจบแทบไม่มีสติ พร้อมกับเหงื่อที่ไหลท่วม ได้แต่พยายามอย่างหนักเหมือนกับอุณหภูมิร่างกายที่ร้อน ตอนนี้ได้ฝึกฝนมาบ้างแล้ว ก็เหมือนจะรู้สึกเฉยๆมากขึ้น เป็นช่วงเวลาที่ต้องจัดการตัวเอง ถ้าทำอย่างใจเย็นไปเรื่อยๆ ก็น่าจะได้พบกับฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง ฤดูที่ดอกไม้ผลิบานในการแสดง

ถ้าเช่นนั้น คิมซอนโฮที่กำลังใช้เวลาในช่วงฤดูร้อน และรอคอยอย่างใจเย็น วันนี้มีความสุขไหมคะ?

แน่นอนครับ ได้ถ่ายทำเสร็จรวดเร็วแบบนี้ ถ่ายนิตยสารก็ดี สัมภาษณ์ก็สนุก ณ ตอนนี้ ผมมีความสุขครับ

Credit: http://www.marieclairekorea.com/celebrity/2019/03/%EC%9C%BC%EB%9D%BC%EC%B0%A8%EC%B0%A8-%EA%B9%80%EC%84%A0%ED%98%B8/